ผลโพลด่วน! ทรัมป์แพ้ คามาลา แฮร์ริส ในดีเบตชิงประธานาธิบดีสหรัฐ

นักการเมืองจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตต่างออกมาสนับสนุนสองแคนดิเดตประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส และ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากเวทีดีเบตสิ้นสุดลง ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นทันทีพบว่าทรัมป์แพ้ในดีเบตครั้งที่สองของปีนี้

ผลสำรวจหลังดีเบต 90 นาทีโดย CNN ระบุว่าแฮร์ริสเป็นผู้ชนะด้วยคะแนน 63-37% ซึ่งพลิกจากผลโพลที่ทำหลังดีเบตระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีโจ ไบเดนในเดือนมิถุนายน ที่ทรัมป์ชนะ 67-33%

ดีเบตนี้ตามมาหลังจากที่ไบเดนยุติการหาเสียงและส่งไม้ต่อให้แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ซึ่งทำให้มีการจัดดีเบตที่นครฟิลาเดลเฟียในช่วงไม่ถึงสองเดือนก่อนการเลือกตั้ง และคาดว่าจะมีผู้ชมหลายสิบล้านคน

ผลโพลอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมถึงเวลา

หลังการดีเบต ทอม คอตตัน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แฮร์ริสไม่สามารถทำตามข้อเสนอที่เธอพูดถึงในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งมาเกือบสี่ปี

“โดนัลด์ ทรัมป์ปกป้องตัวเองได้ดี แต่สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดคือการอธิบายว่าสิ่งต่างๆ เป็นอย่างไรในช่วงที่เขาเป็นประธานาธิบดี ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้ดีเลย” สว.คอตตอนกล่าว

ด้านคริส เมอร์ฟี วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตกล่าวว่า ทรัมป์ไม่สามารถอธิบายได้ว่าจะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ หากได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง

“คำถามที่แท้จริงคือ โดนัลด์ ทรัมป์ยืนหยัดเพื่ออะไร คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของจุดยืนของคามาลา แฮร์ริส ตามข้อมูลใหม่ๆ แต่คุณควรถามว่า ทรัมป์มีแผนการอะไรที่จะช่วยชาวอเมริกันบ้าง” เมอร์ฟีกล่าว

ทรัมป์และแฮร์ริสมีคะแนนสูสีในระดับชาติ ทำให้ทั้งคู่ต้องหาทางดึงคะแนนเสียงจากผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจ โดยเฉพาะในรัฐสมรภูมิที่ไม่มีพรรคใดครองชัยชนะ และเวทีดีเบตก็เป็นโอกาสที่สำคัญในการสื่อสารถึงฐานเสียง

โพลจาก New York Times-Siena College เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ระบุว่าความนิยมระดับชาติของทรัมป์นำแฮร์ริสที่ 48-47% แต่หลายสื่อรายงานว่าแฮร์ริสนำทรัมป์ในหลายโพลในพื้นที่สามรัฐสมรภูมิ ได้แก่ วิสคอนซิน มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ส่วนในอีกสี่รัฐที่เหลือ ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย เนวาดา และนอร์ธแคโรไลนา ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากัน

รัฐสมรภูมิทั้งเจ็ดนี้มีความสำคัญในการกำหนดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี

โพลของ New York Times-Siena College ยังระบุว่า 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการรู้จักแฮร์ริสมากขึ้นผ่านเวทีนี้ เทียบกับทรัมป์ที่มีคนเห็นด้วยเพียง 9% ซึ่งสะท้อนถึงเดิมพันของแฮร์ริสในการขึ้นเวที

ทรัมป์วัย 78 ปีที่ขึ้นเวทีดีเบตเป็นครั้งที่เจ็ด ยังหาจุดโจมตีแฮร์ริสได้ยาก แต่ก็ใช้เวลาในการโจมตีแฮร์ริสในทุกคำถามที่ผู้ดำเนินรายการตั้งประเด็น

แมตต์ เกตซ์ ส.ส.จากพรรครีพับลิกันมองว่าทรัมป์ใช้เวทีดีเบตเพื่อเน้นปัญหาที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน สามารถควบคุมเวลาและพื้นที่การโต้วาทีได้ดี และมองว่าผู้ดำเนินรายการควรมีความเป็นธรรมมากกว่านี้ เพราะดูเหมือนเข้าข้างฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา

หากแฮร์ริสได้รับเลือกตั้ง เธอจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ และเป็นคนแรกที่มีเชื้อสายเอเชียใต้ และเป็นคนที่สองที่เป็นคนผิวดำต่อจากอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *