“พายุ” ลมแรง ควรปิดหรือเปิดหน้าต่าง? คำตอบจากนักวิทย์ฯ
นักวิทยาศาสตร์เผย วิธีป้องกันกระจกแตกเมื่อพายุลมแรง: ปิดหน้าต่างหรือเปิดไว้ดี?
จากเหตุการณ์ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ยางิ” ที่ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมแรงอย่างกว้างขวาง หลายประเทศต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ หลังคาบ้านหลายหลังปลิวไป แม้แต่ในอาคารสูงเช่น โรงแรมและอพาร์ตเมนต์ ก็พบว่าหน้าต่างกระจกแตก ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้คน
ขณะนี้ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ผู้คนจำนวนมากกำลังพูดถึงวิธีการที่ช่วยลดความเสียหายจากกระจกแตก โดยหลายคนเชื่อว่าการ “เปิดหน้าต่าง” หรือประตูทิ้งไว้เล็กน้อยจะช่วยลดความรุนแรงของลม เนื่องจากการระบายอากาศที่ดีขึ้นจะช่วยลดความกดอากาศภายในบ้าน ลดความเสี่ยงกระจกแตก
แล้ววิธีนี้ได้ผลจริงหรือไม่? ควรปฏิบัติตามหรือเปล่า?
ตามข้อมูลจากสำนักงานวิทยาศาสตร์และสมาคมมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (แคนาดา) ระบุว่า “หากบ้านของเรามีช่องเปิดขนาดใหญ่ทั้งด้านรับลมและถ่ายเทลมออกได้ ลมจะพัดผ่านตรงๆ และช่วยลดแรงกดอากาศในบ้านได้ แต่บ้านทั่วไปไม่ใช่ช่องเปิด มีทางเดิน ประตู ห้อง ตู้ เฟอร์นิเจอร์ และมุมต่างๆ ที่อาจทำให้ลมพัดไปกระแทกผนังและสิ่งของอื่นๆ”
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเปิดประตูหรือหน้าต่างเล็กน้อยเมื่อมีลมแรงไม่ได้ช่วยลดความเสียหายได้ แต่อาจสร้างความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อทรัพย์สินและผู้คนในบ้าน
ในโปรแกรมของกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NWS) เมื่อนักเรียนถามถึงการเปิดหน้าต่างเล็กน้อยในช่วงพายุลมแรง ผู้สอนเน้นว่า “ควรหาวิธีการอยู่ให้ปลอดภัยแทนที่จะทำอะไรที่อาจเสี่ยง” เพราะพายุที่พัดเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างที่เปิดอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ดังนั้น เมื่อเกิดสภาพอากาศสุดขั้ว เช่น พายุทอร์นาโดหรือพายุลมแรง วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องพื้นที่อยู่อาศัยคือการ “ปิดบ้าน” รวมถึงประตูและหน้าต่างให้แน่นหนา
นอกจากนี้ หลายคนใช้วิธีการ “ติดเทป” รูปตัว X บนประตูกระจกในช่วงพายุยางิ เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับกระจก
อย่างไรก็ตาม องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NOAA) เตือนว่าการติดเทปไม่เพิ่มความทนทานให้กับกระจก และไม่สามารถป้องกันกระจกแตกได้ การติดเทปอาจทำให้เกิดอันตรายจากเศษกระจกที่เกาะติดกันเมื่อกระจกแตก